ศิลปะ!! ภาพวาดที่แพงที่สุดในโลก
วันนี้จะมาพูดกันถึงเรื่องภาพวาดชิ้นหนึ่งที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลก นั่นก็คือภาพ “Salvator Mundi” เป็นผลงานชิ้นเอกของยอดศิลปีนในอดีต Leonardo Vinci มีความหมายว่า “พระผู้ช่วยให้รอด” โดยภาพวาดรูปนี้มีการนำไปประมูลขายกันเป็นมูลค่าสูงกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 12,800 ล้านบาท เพราะอะไรทำไมภาพนี้ถึงมีราคาแพงมาก มันเป็นเรื่องของความงามอย่าง หรือมีอย่างอื่นที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังกันแน่ ภาพวาดรูปนี้ถูกค้นพบเมื่อหลายสิบปีก่อน ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน หลังจากนั้นก็ถูกส่งต่อผ่านกันมาจากเหล่ามหาเศรษฐีมากมาย
มีนักสมสะมากมายที่มุ่งมั่นอยากจะครอบครองภาพชิ้นนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรการันตีว่าผลงานนี้เป็นของแท้ 100% อย่างไรก็มันก็จะเป็นภาพวาดที่จะดึงดูดผู้ชมในแบบที่โมนาลิซ่าทำได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะอย่าง Jerry Saltz ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นว่าภาพนี้ไม่ใช่ผลงานของ Leonado อย่างแน่นอน ภาพวาด Salvator Mundi แสดงให้เห็นภาพของพระเยซูที่ทรงชุดสีน้ำเงินพร้อมกับถือลูกแก้วไว้บนฝ่ามือ นับเป็นผลงานจาก 20 ชิ้น ของ Leonardo ที่ยังไม่สูญหายไป และนับเป็น 1 ใน 10 ชิ้น ที่ถูกนำออกมาประมูลขายในที่สาธารณะ ผลงานส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะขายประมาณ 120 ล้านเหรียญ น้อยกว่ามูลค่า 179 ล้านเหรียญจากผลงาน Les Femmes d’Alger ของปิกัสโซในปี 2558
การประมูลภาพวาด Salvator Mundi
ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 ได้มากการประกาศว่าค้นพบภาพวาดที่หายไปของ Leonardo และจะนำไปประมูลที่ Christie ในในกลางกรุงนิวยอร์คซิตี้ ภาพวาด Salvator Mundi เปิดประมูลที่ 100 ล้านเหรียญ 19 นาทีต่อมาตัวเลขพุ่งสูงจนทั้งห้องต่างมองหน้าจอกันตาปริบๆ บนหน้าจอแสดงตัวเลขจำนวนเงินทั้งสิ้น 450,312,500 ล้านเหรียญ ทำให้กลายเป็นภาพวาดที่มีราคาแพงที่สุดเท่าที่เคยขายมาในประวัติศาสตร์ หลังจากที่ภาพหายไปเป็นเวลากว่า 150 ปี มันก็โผล่กลับมาในปี 1958 และถูกซื้อโดย Christie ด้วยจำนวนเงิน 60 ล้านเหรียญ ในตอนแรกเชื่อว่าเป็นผลงานของ Giovanni Boltraffio ศิลปินในสตูดิโอของ Leonardo
Salvator Mundi ถูกซื้อไปโดย Alexander Parish ในปี 2005 หลังจากผ่านไป 3 ปี ก็ได้รับการรับรองว่าเป็นผลงานของ Leonardo จากผู้เชี่ยวชาญที่ใช้วิธีตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ ในปี 2013 ภาพถูกนำไปขายที่ปารีสในราคา 80 ล้านเหรียญให้แก่ Yves Bouvier และขายให้ Dimitry Rybololev เศรษฐีชาวรัสเซียในมูลค่า 127.5 ล้านเหรียญ จากนั้นเขาก็ได้นำมาขายภายใต้การดูแลของ Christie’s ที่ขายให้กับเจ้าชาย Badr bin Abdullah Al Saud วัย 33 ปี ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็น Minister of Culture of Saudi Arabia (รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของซาอุดีอาระเบีย)
